คาราวาน แรลลี่ More River Legacy อ่างทอง

ททท. ร่วมจัดกิจกรรม คาราวาน แรลลี่ More River Legacy สัมผัสวีถีชุมชน และท่องเที่ยววัฒนธรรมแม่น้ำน้อย จังหวัดอ่างทอง

ที่บริเวณลานจอดรถร้านอาหาร บาจิก้า ถนนกาญจนาภิเษก กรุงเทพฯ นายณัฐปคัลป์ อัครวิชญ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรี รับผิดชอบพื้นที่อ่างทอง ให้เกียรติร่วมในพิธีปล่อยตัวขบวนคาราวานแรลลี่ More River Legacy แม่น้ำน้อย @อ่างทอง ระหว่างวันที่ 26-27 กันยายน 2563 โดยมีนายพูลผล แพทอง CEO เที่ยวไทย ฯลฯ และในฐานะประธานชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว นางวรางคณา สุเมธวัน ประธานชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว (ช.ส.ท.) นายเชาวรัตน์ รัตนะ ผู้บริหารจากบาจิก้า ร่วมในพิธี โดยมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและจีน ร่วมกิจกรรมขับรถเที่ยวครั้งนี้กว่า 30 คัน รวมกว่า 80 คน

สำหรับจุดเช็คอินแรก ของคณะคาราวานแรลลี่ More River Legacy แม่น้ำน้อย @อ่างทอง ครั้งนี้ ได้แก่ อุทยานสวรรค์อ่างทอง หนองเจ็ดเส้น ตั้งอยู่ที่ตำบลสายทอง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง เป็นโครงการในพระราชดำริ ที่มีพื้นที่กว่า 300 ไร่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวท่ามกลางธรรมชาติ และมีการจัดสวนปลูกไม้ประดับหลากหลายชนิดสวยงามแบ่งเป็นโซนต่างๆ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังได้สักการะพระสมเด็จเกศชัยโย องค์ใหญ่ที่สุดในโลก ภายในซุ้มไม้ประดับพันธุ์ไม้ขนาดใหญ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว ก่อนจะไปกราบสักการะหลวงพ่อใหญ่ หรือ พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรี วิเศษชัยชาญ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ประดิษฐานอยู่ที่วัดม่วง มีขนาดหน้าตักองค์พระ 63.05 เมตร ความสูงจากฐานองค์พระถึงยอดเกศา 95 เมตร โดยมีความเชื่อบอกต่อกันว่า การได้ขอพรและสัมผัสที่ปลายพระหัตถ์หลวงพ่อใหญ่นั้น ท่านจะประทานพรให้เติบโต เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน

จากนั้นคณะฯ ได้ขับรถเคลื่อนขบวนไปรับประทานอาหารกลางวัน ที่บริเวณศูนย์สภากาชาดไทย ต.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ โดยมีนายณัฐปคัลป์ อัครวิชญ์ ผู้อำนวยการการ ททท. สำนักงานสุพรรณบุรี รับผิดชอบพื้นที่อ่างทอง และนายชวลิต วิเศษสิทธิกุล นายกเทศมนตรีตำบลบางจัก และคณะ ให้การต้อนรับ พร้อมบริการอาหารพื้นถิ่นที่รสชาติดี อาทิ น้ำพริกกะปิ ปลาดุกย่าง ทอดมันปลากราย ผัดหมี่ ยำไก่ใส่หัวปลี ต้มยำปลาใส่สายบัว ส่วนของหวาน ยังมีขนมใส่ไส้ ขนมฟักทองนึ่ง และลอดช่องสิงคโปร์ ซึ่งนักท่องเที่ยวพึงพอใจในรสชาติ และการจัดแต่งอาหารในทุกเมนูที่นำมาให้บริการ

ต่อจากนั้น นักท่องเที่ยวได้ร่วมกันลงเรือล่องแพ แม่น้ำน้อย เพื่อเที่ยวชมธรรมชาติและวิถีชุมชนตามลำแม่น้ำ ซึ่งสองฝั่งแม่น้ำมีการทำประมงน้ำจืด ทอดแห ดักปลา ยกยอ การปลูกผักบุ้ง ของชาวบ้านด้วย และที่สร้างความตื่นตา คือการได้ชมรังนกกระจาบ ที่บรรดานกกระจาบได้ทำรังไว้ตามต้นไม้ชายฝั่งแม่น้ำน้อยเป็นระยะๆ ขณะเดียวกัน ยังได้ร่วมทำบุญทอดผ้าป่าทางน้ำ กับชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบางจักด้วย ซึ่งโอกาสนี้ ทั้งนายณัฐปคัลป์ และนายชวลิต ยังได้ร่วมล่องเรือด้วย บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุก แปลกตา

เรือท่องเที่ยวยังได้นำคณะฯ ไปเทียบท่าที่วัดสี่ร้อย วัดเก่าแก่ของอำเภอวิเศษชัยชาญ ที่ประชาชนได้ร่วมกันสร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์ระลึกถึงขุนรองปลัดชู และบรรพบุรุษ รวม 400 คนที่พลีชีพเพื่อปกป้องแผ่นดินไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา จึงใช้ชื่อว่า “วัดสี่ร้อย” โดยมีอนุสาวรีย์ขุนรองปลัดชู ไว้ให้คนรุ่นหลังได้สักการะ

ต่อจากนั้น คณะฯ ได้ไปวัดเขียน ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่สมัยอยุธยา ตั้งอยู่ที่ ตำบล ศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ ห่างจากตัวเมืองอ่างทองประมาณ 12 กิโลเมตร เพื่อชมภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือสกุลช่างวิเศษชัยชาญในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ซึ่งจนถึงปัจจุบัน แม้ภาพและลวดลายต่างๆ จะสลายไปบางส่วน แต่บางภาพโดยเฉพาะลายมังกรที่ยังมีสีโดดเด่นชัดเจน งดงามอย่างมาก นอกจากนี้ ภายในวัดยังได้สะสมภาพถ่ายหาชมยากในรัชสมัยในหลวงรัชกาลที่ ๙ ซึ่งมีภาพที่ปรากฎบนหลังธนบัตรที่ระลึกเนื่องในมหามงคลสมัย ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ทรงเจริญ พระชนมพรรษาครบหกสิบพรรษา

สำหรับกิจกรรมสันทนาการในช่วงค่ำ นอกจากคณะฯ จะได้ร่วมกันรับประทานอาหาร และฟังดนตรีพร้อมลุ้นรางวัลและของที่ระลึกที่ผู้สนับสนุนนำมามอบให้อย่างสนุกสนานแล้ว ยังมีการมอบรางวัลสำหรับผู้ได้คะแนนระหว่างร่วมกิจกรรมตามจุดต่างๆตลอดทั้งวันด้วย

และที่น่าประทับใจส่งท้ายทริปนี้ คือ “ไปเที่ยวทั้งที ทำดีร่วมกัน” คณะฯ ได้ร่วมกันมอบทุนอาหารกลางวันและเสื้อที่ระลึกจากกิจกรรมให้เด็กนักเรียนกำพร้า ยากจน พร้อมร่วมทอดผ้าป่า ณ วัดสระแก้ว จ.อ่างทอง ด้วย

ขอขอบคุณ
สำนักงาน ททท. สุพรรณบุรี ซึ่งดูแลพื้นที่อ่างทอง
#คาราวานแรลลี่ #อ่างทอง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *