ข้อบังคับ
ชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว
ข้อความทั่วไป
ข้อ ๑ ชมรมนี้มีชื้อว่า “ชมรมสื่อมวลชนส่งเสริมการท่องเที่ยว” เรียกโดยย่อว่า “ ช.ส.ท.”
และมีชื่อภาษาอังกฤษว่า “THE MASS MEDIA FOR TOURISM PROMOTION GROUP” เรียกโดยย่อว่า “M.T.P.” ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๒๘ ข้อ ๒ เครื่องหมายของชมรมเป็นรูปแผนที่ประเทศไทย อยู่ในกรอบมีเส้นตัดผ่าน มีนกพิราบบิน หมายถึง “ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการสื่อสารของมวลชนไทยแขนงต่าง ๆ”

ข้อ ๓ สถานที่ตั้งสานักงานของชมรมให้เป็นมติของคณะกรรมการบริหารชมรม
วัตถุประสงค์
ข้อ๔ วัตถุประสงค์ของชมรมเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยด้วยการที่สมาชิกชมรมใช้สื่อที่รับผิดชอบอยู่ดาเนินการประชาสัมพันธ์ รวมทั้งให้ข้อคิดเห็นและเสนอแนะการดาเนินงานด้านการท่องเที่ยวต่อหน่วยงานของรัฐและเอกชนในโอกาสต่าง ๆ

สมาชิก
ข้อ ๕ สมาชิกประกอบด้วย
๕.๑ สมาชิกก่อตั้ง ได้แก่กลุ่มผู้ริเริ่มจัดตั้งชมรมรวม ๑๓ คน คือ นายชัยวิชิต อติศัพท์ นายวิทยา ตัณฑสุทธิ์
นายวิทยา ภูลสนอง นางสาวภารดี กาญจนโพธิ์ นางวรางคณา สุเมธวัน นายพิชาน กิติอาษา
นายภราดร รัตนกุล นายองอาจ จิระอร นายวิชิต สิงห์ทอง นายปรีชา ประภาชื่น นายทวีป คล้าประเสริฐ
นางศศินันท์ (สมศรี ) จามรมาน นางสาวนฤมล พฤฒาธร
๕.๒ สมาชิกสามัญ ได้แก่ผู้มีคุณสมบัติต่อไปนี้
ก. เป็นสื่อมวลชนที่มีผลงานด้านการท่องเที่ยว หรือเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้านการท่องเที่ยว
ข. มีอุดมการณ์ร่วมกันที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนและประเทศชาติโดยส่วนรวมด้วยการใช้สื่อของสมาชิกชมรมที่แต่ละคนมีอยู่ ดาเนินการในแนวทางเดียวกัน
ค. ได้รับการรับรองจากกรรมการบริหารของชมรม ๓ คน และได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารของชมรมให้เป็นสมาชิกสามัญ
๕.๓ สมาชิกกิตติมศักดิ์ ได้แก่บุคคลสาคัญที่ใหัการสนับสนุนชมรม ซึ่งคณะกรรมการบริหารของชมรมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้เชิญเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์
๕.๔ การพ้นจากสมาชิกภาพเมื่อ ก. ตาย ข. ลาออก ค. คณะกรรมการบริหารของชมรมลงมติในที่ประชุมด้วยคะแนนเสียง ๓ ใน ๔ ให้คัดชื่อออก

การประชุม
ข้อ ๖ การประชุมใหญ่สามัญประจาปี ให้มีภายใน ๑๒๐ วัน นับแต่วันสิ้นรอบปีการเงินของชมรม เพื่อ
๖.๑ แถลงผลงานในรอบปี
๖.๒ ชี้แจงบัญชีรายรับ – รายจ่าย และยอดเงินคงเหลือ
๖.๓ แก้ไขข้อบังคับของชมรม เมื่อคณะกรรมการเสนอขอแก้ไข หรือในกรณีสมาชิกของชมรมไม่น้อยกว่า ๑๑ คน เสนอขอแก้ไขเป็นลายลักษณ์อักษร ต่อเลขาธิการ ก่อนวันประชุมใหญ่สามัญประจาปี ๓๐ วัน
๖.๔ เลือกประธานเมื่อตาแหน่งว่าง หรือเมื่อครบวาระ
ข้อ ๗ การประชุมใหญ่วิสามัญ ให้กระทาได้เพื่อพิจารณาแก้ไขข้อบังคับของชมรม หรือซักถามเกี่ยวกับผลงานหรือการเงิน เมื่อคณะกรรมการบริหารของชมรม หรือสมาชิกชมรมจานวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ร้องขอเป็นลายลักษณ์อักษรต่อเลขาธิการ และให้มีการประชุมภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับการร้องขอ
ข้อ ๘ องค์ประชุมใหญ่สามัญประจาปี หรือประชุมใหญ่วิสามัญ จะต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่า ๒๐ คน และหากไม่ครบองค์ประชุมให้ดาเนินการประชุมครั้งต่อไปภายในกาหนด ๓๐ วัน โดยไม่กาหนดองค์ประชุม
ข้อ ๙ คณะกรรมการบริหารของชมรม
๙.๑ ให้มีคณะกรรมการบริหารของชมรม โดยสมาชิกที่เข้าประชุมใหญ่สามัญประจาปี เลือกตั้งจากสมาชิกชมรมให้ดารงตาแหน่งประธานชมรม
๙.๒ ให้ประธานแต่งตั้งผู้ที่เหมาะสมจากสมาชิกชมรมเป็นกรรมการบริหารจานวนไม่เกิน ๑๔ คน ดารงตาแหน่งต่าง ๆ อาทิ รองประธาน เลขาธิการ เหรัญญิก นายทะเบียน สมาชิกสัมพันธ์ และตาแหน่งอื่น ๆตามที่เห็นสมควร กรรมการที่เหลือให้เป็นกรรมการกลาง
๙.๓ คณะกรรมการบริหารอยู่ในตาแหน่งได้วาระละ ๒ ปี ในกรณีตาแหน่งประธานชมรมว่างลง ให้รองประธานทาหน้าที่ประธานชมรม และถ้ามีรองประธานมากกว่า ๑ คน ให้รองประธานตามลาดับทาหน้าที่ประธานชมรมเท่าที่วาระเวลาเหลืออยู่
๙.๔ อำนาจการถอดถอนะกรรมการบริหารมีอำนาจหน้าที่ในการดาเนินกิจการของชมรมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และมีอำนาจหน้าที่ตามที่กำหนดในข้อบังคับนี้ กับทั้งมีอำนาจในการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อดำเนินการใด ๆได้                                                                                                                                                                                        ข้อ ๑๐ ประธานชมรมเป็นผู้เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารเพื่อปรึกษากิจการเป็นครั้งคราวตามที่เห็นสมควรแต่ต้องไม่น้อยกว่าปีละ ๖ ครั้ง การประชุมคณะกรรมการบริหารต้องมีกรรมการอยู่ประชุมไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งจึงจะเป็นองค์ประชุม มติที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์
ข้อ ๑๑ ประธานชมรมเป็นประธานโดยตาแหน่งในที่ประชุม ถ้าประธานชมรมไม่อยู่ให้รองประธานตามลำดับเป็นประธานในการประชุมทุกครั้ง ถ้าประธานและรองประธานไม่อยู่ ให้คณะกรรมการบริหารที่เข้าประชุมเลือกกรรมการ ผู้หนึ่งขึ้นเป็นประธานในการประชุมครั้งนั้น

ข้อ ๑๒ กรรมการบริหารพ้นตาแหน่งเมื่อ
ก.ตาย
ข.ลาออก
ค. ครบวาระตามข้อ ๙.๓
ง. พ้นสมาชิกภาพ

การเงิน
ข้อ ๑๓ ปีการเงินของชมรมให้เริ่มนับจากวันต้นเดือนมกราคมจนถึงวันสิ้นเดือนธันวาคมของทุกปี
ข้อ ๑๔ คณะกรรมการบริหารมีอานาจวางกฎเกณฑ์และควบคุมการใช้จ่ายเงินของชมรมให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของชมรม และสมาชิกสามารถร้องขอเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารเพื่อซักถามเกี่ยวกับการเงินได้เมื่อต้องการ
ข้อ ๑๕ รายได้ของชมรมมาจากการสนับสนุนจากผู้มีอุดมการณ์เดียวกันและ / หรือจัดกิจกรรมต่าง ๆ
ข้อ ๑๖ ให้เหรัญญิกเสนอยอดบัญชีรับ – จ่าย ประจาเดือนต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารทุกครั้ง

การยุบเลิกชมรม
ข้อ ๑๗ การยุบเลิกชมรม ให้ถือมติของที่ประชุมใหญ่ สินทรัพย์ (ถ้ามี) ให้มอบองค์กรสาธารณกุศล
หมายเหตุ ข้อบังคับ ช.ส.ท. นี้ แก้ไขเป็นครั้งที่ ๒ ตามมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญ เมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๑ ณ หอประชุมบ้านมนังคศิลา และมีการแก้ไขเพิ่มเติมในข้อ ๙.๓ เรื่องเพิ่มจานวนกรรมการบริหารชมรม จากเดิม ๑๐ คน เป็น ๑๔ คน ตามมติที่ประชุมใหญ่สามัญประจาปี ๒๕๕๓ เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ณ ห้องอาหาร
กรมประชาสัมพันธ์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *